มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย (World Vision Foundation of Thailand) องค์กรพัฒนาเอกชน ที่เป็นสื่อกลางในการประสานงานความร่วมมือ เพื่อกระชับช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางสังคม มุ่งเน้นดำเนินงานพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก ครอบครัวและชุมชน ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งของ World Vision หรือศุภนิมิตสากล ที่มีพันธกิจในการช่วยเหลือเด็กมาแล้วกว่า 70 ปี และมีเครือข่ายดำเนินงานในกว่า 100 ประเทศ และเป็นเวลากว่า 5 ทศวรรษแล้ว ที่ศุภนิมิตฯ อยู่เคียงข้างคนไทยมาทุกสถานการณ์ ซึ่งการบริจาคนำไปสู่โอกาสที่ยั่งยืนสำหรับผู้ที่อยู่ในความยากจน รวมทั้งการเข้าถึงการศึกษาต่อเนื่อง การฝึกอบรมทักษะชีวิตและโอกาสทางธุรกิจ ที่นำไปสู่การพึ่งพาตนเองที่เข้มแข็งยิ่งขึ้นจนกระทั่งถึงปัจจุบัน จึงเป็นที่มาของการจัดงาน 50 years and beyond: leading sustainable change for children (50 ปีศุภนิมิตฯ : ก้าวต่อไปเพื่อนําความเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนสู่ชีวิตเด็ก)   

ดร.สราวุธ ราชศรีเมือง ผู้อำนวยการมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย เล่าถึงภาพรวมของการทำงานตามพันธกิจที่หลากหลายและการจัดงานครบรอบ 50 ปีครั้งนี้ด้วยว่า “เนื่องในโอกาสแห่งความยินดีนี้ เราได้วางแผนการเฉลิมฉลองตลอดปีผ่านอีเวนต์และแคมเปญต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนในเรื่องของการสร้างภาพลักษณ์ใหม่และเอื้อในแง่ของการระดมทุน เพื่อสื่อสารไปสู่สาธารณชน สร้างความเข้าใจและความผูกพันกับผู้ที่ต้องการเข้ามามีส่วนร่วม ภายในธีม “ฮีโร่” ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้  ไม่เพียงแค่ฉลองครบรอบ 50 ปี แต่เรายังถือโอกาสนี้ขอบคุณผู้มีอุปการคุณ ที่สนับสนุนศุภนิมิตฯ มาโดยตลอด อีกทั้งยังเป็นโอกาสดีที่ให้เด็กๆได้แสดงศักยภาพของตนเอง ซึ่งตลอด 50 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้ช่วยเหลือผู้เปราะบางยากไร้กว่า 11 ล้านคนในประเทศไทย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นเด็กกว่า 7 ล้านคน

ดร.สราวุธ ยังได้พูดถึงทิศทางการดำเนินงานต่อจากนี้ ของศุภนิมิตฯ ว่า “ถ้ามองย้อนกลับไป 50 ปีก่อนเราอยู่ในทุกวิกฤติการณ์สำคัญๆของประเทศ มีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูมาตลอด และสิ่งที่สร้างความภาคภูมิใจให้เรา คือ เด็ก เยาวชนและชุมชนที่เราเข้าไปช่วยเหลือสนับสนุนนั้น เกิดผลสัมฤทธิ์ที่ดีและประสบความสำเร็จในสายอาชีพ แล้วนำความรู้กลับไปพัฒนาชุมชนของเขาเอง เป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมให้ชุมชนเป็นองค์กรเข้มแข็ง ชาวบ้านมีรายได้ พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้ไปสู่ชุมชนข้างเคียง เกิดเป็นเครือข่ายสร้างงานสร้างอาชีพชุมชนยั่งยืนต่อไป

ทุกวันนี้ โครงสร้างทางสังคมเปลี่ยนไปจากเดิมมาก รูปแบบการระดมทุนก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ศุภนิมิตฯ จะเน้นอยู่ 2 ส่วน คือ 1.ใช้ชุดข้อมูลตามสถานการณ์จริงเพื่อส่งผ่านไปถึงหน่วยงานที่มีความต้องการ 2.เข้าถึงผู้บริจาคทั่วไป ควบคู่ไปกับการสร้างสังคมแห่งการให้ ปีนี้เราเน้นที่กลุ่มวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ ด้วยการสร้างความเข้าใจผ่านการสื่อสารทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ นำเสนอผ่านผู้ทรงอิทธิพลในโลกโซเชียล เรามีอินฟูลเอนเซอร์ ที่ช่วยทำหน้าที่นำเสนอการทำงานของเราในหลายมิติ  ควบคู่ไปกับแบรนด์ แอมบาสเดอร์ ของศุภนิมิตฯ คือคุณเก๋-ชลลดา (เมฆราตรี) สิริสันต์ และน้องวินนี่ เคสิยาห์ และน้องฮีโร่ วจนะ ชุมพวง สองพี่น้องดีไซเนอร์รุ่นจิ๋วที่มาเป็น Spokesperson ส่งเสริมภาพลักษณ์ เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับสาธารณชนได้มั่นใจในการทำงานของเรามากยิ่งขึ้น ซึ่งในปีนี้ต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า ก็จะได้เห็นแคมเปญ กิจกรรมดีๆจากศุภนิมิตฯ มากขึ้นครับ”

เมื่อพูดถึงผู้ที่มาทำหน้าที่เป็น Brand Spokesperson แล้ว ก็อดอยากรู้ไม่ได้ว่าทำไมถึงต้องเป็นดารา พิธีกรสาวมากความสามารถคนนี้ เก๋-ชลลดา (เมฆราตรี) สิริสันต์ ซึ่งเธอทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงมากว่า 2 ปีแล้ว “จริงๆแล้ว เก๋เริ่มจากการเป็นผู้บริจาค ผู้อุปถัมภ์มาก่อนเหมือนกัน ทำมา 17 ปีแล้ว พอเราทำมาเรื่อยๆลงพื้นที่ในชุมชนทั่วประเทศเห็นความเป็นอยู่ เรารู้สึกว่า บ้านเรายังมีอีกหลายอย่างที่ยังขาด หลายคนที่ยังรอโอกาส เพื่อที่จะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ หลักๆเลยคือเด็กๆที่ต้องการโอกาสทางการศึกษา ชุมชน ชาวบ้านก็ยังต้องการอาชีพ เครื่องไม้เครื่องมือ เพื่อต่อยอดสู่การสร้างรายได้มีอาชีพที่ยั่งยืน เก๋เลยคิดว่ามันน่าจะมีทางที่เราสามารถทำประโยชน์ให้สังคมได้มากกว่าแค่การบริจาค ประจวบเหมาะกับผู้ใหญ่จากศุภนิมิตฯ เล็งเห็นความทุ่มเทที่เราทำอยู่ เลยมอบหน้าที่นี้ให้เรา ได้เข้ามาช่วยเหลือได้เต็มที่ขึ้น และเป็นตัวแทนสื่อสารกับสังคมให้เข้าใจในสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นจริง ให้ผู้ที่รอคอยการช่วยเหลืออยู่ ได้มีโอกาสยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ทั่วถึงมากขึ้นด้วย เก๋มาทำงานด้านจิตอาสาไม่ว่าจะด้านใดก็ตาม เราทำด้วยใจ เราใช้ความเป็นบุคคลสาธารณะมาทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม สำหรับศุภนิมิตฯ เก๋ก็อยากสื่อสารออกไปว่า การบริจาค มันยังมีอีกรูปแบบหนึ่งคือการให้โอกาส ซึ่งเก๋เชื่อเหลือเกินว่า ถ้าทุกคนในสังคมหันกลับมามองกลุ่มเปราะบางเหล่านี้ แล้วหยิบยื่นโอกาส สนับสนุนกันคนละเล็กละน้อย ให้กับผู้ที่ยังขาด ตรงนี้ก็น่าจะช่วยให้สังคมไทยเราเดินหน้าต่อไปได้พร้อมกัน โดยที่ไม่ทิ้งใคร ไว้ข้างหลัง และสิ่งนี้แหละที่ทำให้เก๋ตัดสินใจช่วยเหลืองานของศุภนิมิตฯ มาโดยตลอด และปณิธานนี้ ก็เป็นพันธกิจเดียวกันกับที่ศุภนิมิตฯ ยึดถือมาตลอด 50 ปีด้วยค่ะ”

นอกจากนางฟ้าจิตอาสา เก๋-ชลลดา แล้ว ยังมีแบรนด์ แอมบาสเดอร์รุ่นเยาว์มากความสามารถอีกสองท่านดีกรีไม่ธรรมดา น้องวินนี่ เคสิยาห์ และน้องฮีโร่ วจนะ ชุมพวง สองพี่น้องที่พาแบรนด์ Keziah ดังไกลระดับโลกบนเวที นิวยอร์ก และมิลาน แฟชั่น วีค พูดถึงคอลเลคชันพิเศษที่นำมาแสดงในงานครบรอบ 50 ปี ศุภนิมิตฯ ครั้งนี้ด้วย แชร์ประสบการณ์บนเส้นทางสายศิลปะให้ฟังว่า ในฐานะแอมบาสเดอร์ของมูลนิธิศุภนิมิตฯ หนูคิดว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ อยากสนุกกับเพื่อนๆ แบ่งปันประสบการณ์ร่วมกัน ให้กำลังใจ และสร้างแรงบันดาลให้แก่กันและกัน “เราสองคน (ฮีโร่-วินนี่) เริ่มต้นจากความสนใจเรื่องงานศิลปะและดีไซน์อยู่แล้ว โชคดีที่เราค้นพบว่าตัวเองชอบอะไรตั้งแต่ยังเด็กแล้วคว้าโอกาสที่ได้มา ทำตามความฝันของตนเอง ซึ่งพวกเราก็ได้รับแรงบันดาลใจจากคนรอบข้าง ธรรมชาติ และสิ่งต่างๆรอบตัวเราทั้งคู่มาสร้างเป็นผลงานมาให้ได้ชมกัน สำหรับงาน 50 ปีศุภนิมิตฯ ครั้งนี้ พวกเราทั้งสองคนตั้งใจทำเต็มที่ ครีเอตคอลเลคชันพิเศษ “Perfect Love” ซึ่งทั้งฮีโร่และวินนี่ เราต้องการสื่อสารกับทุกคน และอยากส่งต่อถึงความรักความอบอุ่นมีอยู่รอบ ๆ ตัวเราในหลายรูปแบบทั้งจากครอบครัว เพื่อนหรือคนรัก เพราะความรัก ทำให้เรามีพลัง มีกำลังใจในการใช้ชีวิตต่อไป คอลเลคชันที่เราจะนำมาร่วมงานก็จะมีทั้งเสื้อ  กระเป๋า และในอนาคตก็จะมีแอสเซสซอรี่สวยให้เลือก สำหรับคำว่า ฮีโร่ ในความหมายของเราสองคน พวกเรามองว่า เป็นสิ่งที่เราทุกคนมีอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว เพื่อร่วมกันส่งต่อพลังฮีโร่นี้ ทำประโยชน์ให้สังคมและช่วยเหลือคนอื่นๆที่ยังขาดโอกาสด้วย ทั้งฮีโร่และวินนี่ในฐานะแบรนด์ แอมบาสเดอร์ รู้สึกดีใจ ที่จะได้มาเจอกับเพื่อนๆพี่ๆทุกคนมาแบ่งปันประสบการณ์ร่วมกัน ให้กำลังใจและสร้างแรงบันดาลให้แก่กันและกัน ท้ายนี้ พวกเราอยากฝากผลงานภายใต้แบรนด์ Keziah ซึ่งก็จะมีคอลเลคชันใหม่ทยอยออกมาให้ได้ชมกันและเร็วๆนี้ ฮีโร่กับวินนี่ก็จะเข้าร่วมแสดงแบบที่ Paris Fashion Week 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศสด้วย รวมถึงช่วยกันสนับสนุนมูลนิธิศุภนิมิตฯ แบ่งปันโอกาสให้กับอีกหลายคนที่ยังขาดโอกาส ให้มีชีวิตที่ดีขึ้นได้” น้องวินนี่ เคสิยาห์ และน้องฮีโร่ วจนะ ชุมพวง กล่าวทิ้งท้าย

เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับแคญเปญ “Hero” ได้ที่

https://give.worldvision.or.th/ukkjYT

You missed