Kind+Jugend ASEAN 2025 งานมหกรรมสินค้าแม่และเด็กเพื่อสร้างเครือข่ายและเจรจาธุรกิจ (B2B) ที่จัดโดย บริษัท โคโลญเมสเซ่ (ประเทศไทย) ร่วมส่งเสริมการพัฒนาทักษะและการเรียนรู้ของเด็กๆ โดยการนำของเล่นพัฒนาทักษะไปแจกให้กับน้องๆ นักเรียนจากโรงเรียนโสตศึกษา จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นโรงเรียนสำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ในงาน WOW Festival 2025 ณ พิพิธภัณฑ์สวนป่าเบญจกิติ ในช่วงวันเด็กแห่งชาติที่ผ่านมา


โครงการมอบของเล่นพัฒนาทักษะนี้เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของ Kind+Jugend ASEAN ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างโอกาสให้เด็กๆ ทุกกลุ่มได้รับการพัฒนาและการเรียนรู้อย่างเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ซึ่งของเล่นที่มอบให้ในครั้งนี้จะช่วยเสริมทักษะต่างๆ เช่น การพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การฝึกการประสานงานระหว่างมือและตา รวมถึงการพัฒนาทักษะทางสังคมและจินตนาการ

งานKind+Jugend ASEAN 2025 ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่ปี 1960 ที่ประเทศเยอรมนี และมีเครือข่ายจัดงานทั่วโลก จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 12-14 มิถุนายน 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร งานนี้เป็นงานสำคัญที่รวบรวมผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย และผู้ค้ารายใหญ่จากทั่วโลกในอุตสาหกรรมสินค้าสำหรับแม่และเด็ก เพื่อสร้างโอกาสในการเชื่อมโยงเครือข่ายและเจรจาธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน นอกจากความสำคัญทางธุรกิจแล้ว งานยังเป็นโอกาสในการเผยแพร่และสนับสนุนการพัฒนาสินค้าสำหรับการเรียนรู้และการเล่นที่มีคุณค่า ซึ่งมุ่งเสริมสร้างทักษะและพัฒนาศักยภาพของเด็กๆทุกคน.
งาน WOW Festival 2025 เปิดพื้นที่ต้อนรับเด็กๆผู้มีความบกพร่องทางการได้ยินจากโรงเรียนโสตศึกษา จังหวัดนครปฐม ให้มาร่วมสนุก ปลดปล่อยจินตนการ และค้นพบแรงบันดาลใจใหม่ๆผ่านกิจกรรมสุดสร้างสรรค์มากมาย สะท้อนถึงการอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียมของทุกคนในสังคม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาเมืองที่ดี เพื่อส่งต่อของขวัญวันเด็กที่มีคุณค่าให้คนรุ่นต่อไปในอนาคต




สนุกกับกิจกรรมที่ออกแบบเพื่อสร้างฝันและส่งต่อแรงบันดาลใจ น้องๆจากโรงเรียนโสตศึกษาได้ร่วมสนุกและเรียนรู้ผ่านการลงมือทำอย่างสร้างสรรค์กับกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ โดยหนึ่งในกิจกรรมที่ทำคือ “Something on Tree” ที่เด็กๆได้เขียนคำขอพรและความฝันเกี่ยวกับเมืองของตัวเอง ก่อนนำไปแขวนบน “ต้นไม้มงคล” เพื่อส่งต่อความหวังและพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงสู่สังคม ต่อจากนั้นก็ไปวาดภาพสัตว์และแมลงบน Bubble Panel ในโซน “WONDER LIVE CORRIDOR” ซึ่งเมื่อภาพเหล่านี้กระทบแสงแดดจะเกิดเป็นเงาบนพื้นหรือผนัง กระตุ้นให้เด็กๆเห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างเมือง ธรรมชาติ และการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล รวมทั้งยังได้ร่วมเล่นเวิร์กชอปสนุกๆอย่าง “2D Vase Workshop” ที่เปิดโอกาสให้น้องๆได้ออกแบบลวดลายแจกัน DIY เพื่อนำกลับไปเป็นของตกแต่งบ้าน และกิจกรรม “Animated Dream” สอนการสร้างอนิเมชันแบบ Stop Motion ผ่านของเล่นและการวาดภาพ เสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์ และยังปลูกฝังให้กล้าแสดงออกและกล้าลงมือทำ






นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการแบบจำลองเมืองกรุงเทพมหานคร Bangkok City Model ที่มาพร้อมการแสดง Mapping แสงสีสุดตื่นตา ช่วยเปิดมุมมองใหม่ให้เด็กๆ เห็นความเป็นไปได้ของการพัฒนาเมืองในอนาคต








เสียงเล็ก ๆ จากเด็ก ๆ ที่ร่วมกันขับเคลื่อนเมือง
หลังทำกิจกรรมเสร็จ น้อง ๆ ทุกคนต่างเล่าถึงความรู้สึกเป็นเสียงเดียวกันว่า มีความสุขและสนุกมาก ที่ได้มาร่วมงาน WOW Festival ในวันนี้ โดยกิจกรรมที่ชื่นชอบที่สุดคือการสร้างอนิเมชันแบบ Stop Motion เพราะเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ครั้งแรกที่ได้ลองทำ รวมทั้งยังได้เรียนรู้ทักษะการใช้กล้องถ่ายภาพต่อเนื่องจนเกิดเป็นภาพเคลื่อนไหว และเมื่อถามถึง “เมืองในฝัน” เด็ก ๆ บอกว่าอยากเห็นเมืองที่เต็มไปด้วยพื้นที่ธรรมชาติสีเขียว สะอาด ปลอดภัย และมีอากาศบริสุทธิ์ ให้ทุกคนในครอบครัวสามารถทำกิจกรรม ออกกำลังกาย และเล่นสนุกร่วมกันได้อย่างมีความสุข นอกจากนี้ ยังอยากให้เมืองมี Wi-Fi ครอบคลุมในพื้นที่ส่วนต่างๆในชีวิตประจำวัน เช่น บนรถสาธารณะ หรือสวนสาธารณะ เป็นต้น เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ชีวิตประจำวันให้มากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้พิการที่ใช้เทคโนโลยีเป็นตัวช่วยในการสื่อสาร

เมืองดี เริ่มต้นที่เราทุกคน
นายบรรลือ สื่อเฉย คุณครูโรงเรียนโสตศึกษา จังหวัดนครปฐม เผยว่า “ผมรู้สึกภูมิใจแทนเด็กๆที่มีการจัดกิจกรรมแบบนี้ขึ้นเพื่อทุกคนอย่างเท่าเทียม เนื่องจากเด็กกลุ่มนี้เป็นเหมือนตัวแทนของคนพิการในประเทศ ที่วันหนึ่งข้างหน้าจะต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในสังคม การมาทำกิจกรรมนี้ถือเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมอย่างมีระเบียบวินัย และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเมืองที่ดีไปพร้อมกันกับคนอื่น พร้อมยังให้เด็กได้เรียนรู้และใกล้ชิดกับคำว่าเมืองมากขึ้นในรูปแบบของกิจกรรมสนุกๆที่เข้าใจง่าย เป็นการกระตุ้น สร้างความตระหนักรู้ และทำให้เด็กรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของเมืองนี้เช่นกัน” คุณครูกล่าวทิ้งท้ายถึงการพัฒนาเมืองที่ดีพร้อมทั้งฝากข้อคิดถึงผู้พัฒนาเมืองว่า “กรุงเทพมหานครถือเป็นเมืองแห่งความหวังที่มีคนอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างหลากหลาย ทั้งเชื้อชาติ เพศ ฐานะ ฉะนั้นเมืองที่ดีคือเมืองที่ให้โอกาสกับทุกคนอย่างเท่าเทียม สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่างมีระเบียบวินัย เข้าใจและเคารพซึ่งกันและกัน ที่สำคัญต้องเน้นการออกแบบ friendly-design ที่คำนึงถึงคนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้พิการ ผู้สูงอายุ และผู้ที่ใช้รถเข็นวีลแชร์ เช่น ทางลาดสำหรับรถเข็น และป้ายบอกทางที่ชัดเจน ซึ่งสิ่งสำคัญคือการสอบถามความต้องการของผู้ใช้งานจริง เพื่อนำข้อมูลไปพัฒนาเมืองได้อย่างตรงจุดและตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างแท้จริง”
