ครั้งแรก! “หมอปลาย พรายกระซิบ” หมอดูชื่อดัง ลั่นแรงถึงเรื่องความรักเรียกว่าเปิดหมดเปลือก พร้อมให้พิธีกรนางเอกดังรุ่นใหญ่ “ตั๊ก-มยุรา เศวตศิลา” ล้วงลึกถึงชีวิตส่วนตัวที่ไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน ในรายการ “มยุราหาเรื่องเมาท์” บอกเลยว่าที่นี่ที่แรก!!!
โดย “หมอปลาย พรายกระซิบ” ก็ได้เล่าย้อนถึงความรักในอดีต ที่เคยมีความรักแต่กับเจอรักที่ไม่ดี ถึงขั้นต้องพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ด้วยอาชีพที่เป็นหมอดู ทำให้ผู้ชายกลัวถึงขั้นหนี พอรู้ว่าเป็น “หมอปลาย” จากที่จีบๆก็รีบมุดหนี เหตุเพราะกลัวจะอ่านใจ รู้ความคิดจับโกหกได้ และจากที่เคยเป็นหมอดูหุ่นอวบ อ้วน มีหลายโรครุมเร้า ปัจจุบันเป็นหมอดูที่หุ่นสวย เฟิร์ม เซ็กซี่ สุขภาพแข็งแรง ไม่ต้องพึ่งยาอีกต่อไป

ซึ่ง “หมอปลาย” ก็บอกว่าที่หุ่นเฟิร์ม น้ำหนักลดลง ผอม ดูดี หุ่นกระชับสวยแบบนี้เพราะ “Slim Up” สถาบันความงามอันดับ 1 ของประเทศไทย ที่มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางคอยดูแล จากจุดเริ่มต้นที่เป็นคนสุขภาพไม่ดี มีหุ่นที่อ้วน เกิดจากการป่วยเป็นโรค SLE หรือที่เรียกว่าโรคพุ่มพวง นอนน้อย 2- 3 ชั่วโมงต่อวัน ทำงานหนัก มีความเครียด พอเครียดก็จะกินแต่ของหวาน ไอติม กาแฟเย็นใส่นม กินแล้วเย็นสบาย กินทั้งวันไม่กินข้าว แล้วก็หนักกว่านั้นก็ป่วยเป็น “ซึมเศร้า” เพราะว่าเคยผอม พอเห็นตัวเอง “อ้วน” แบบเร็วมาก ก็เริ่มรู้สึกซึม เริ่มไม่มั่นใจตัวเอง ไม่มีเสื้อใส่ แล้วก็มีช่วงนึงต้องเอากางเกงคุณแม่มาใส่ (หัวเราะ) เพียงแค่ 2-3 อาทิตย์ คือหุ่นอวบอ้วนจนน่าตกใจ น้ำหนักตัว 70 กิโล และที่หนักกว่าคือตอนไปบวชท้องเสีย เราก็คิดว่าการท้องเสียจะทำให้น้ำหนักลดลง แต่กลายเป็นตัวเหลือง คือทุกโรคกำเริบขึ้นมาหมดเลย ในตอนนั้นมีโอกาสได้คุยกับลูกค้าที่มาดูดวง เขาก็แนะนำว่าให้มาที่ “Slim Up” เริ่มแรกไปวัดสัดส่วนก่อน ตอนนั้นตัว “หมอปลาย” เองก็ไม่เคยคิดเรื่องนี้ พี่เขาก็เป็นผู้ใหญ่แต่อายุ 50 คือหุ่นเขาลงและเฟิร์มเลย หน้าอกเขายังสวยอยู่ ยังสาว จากที่หุ่นย้วยๆ แต่คือน้ำหนักเขาลง แล้วหุ่นเฟิร์มกระชับดี ทำให้เราตัดสินใจมา “Slim Up” เลย


ตอนแรก “หมอปลาย” น้ำหนัก 70 กิโล แต่ตอนนี้น้ำหนักเหลือ 50 คือลดลงไป 20 กิโล โดยที่ผิวหนังไม่เหี่ยว ไม่เหลว ตึงเป๊ะเหมือนเดิม เริ่มแรกที่เข้าไป “Slim Up” ก็ชั่งน้ำหนัก เป็นเครื่องพิเศษที่มีเทคโนโลยีแบบใหม่ คือ “AI Digital Tailor Made” เป็นเครื่องที่ดีไซน์ประมวลผลในร่างกาย ตอนนั้น “หมอปลาย” อายุ 36 ปี แต่อายุเผาผลาญไปเท่ากับคนอายุ 52 มีไขมันในช่องท้องประมาณ 66 มีไขมันเกาะตับ กล้ามเนื้อไม่มีเลย ระบบเผาผลาญไม่ดี งานที่ทำก็ต้องเดินทางบ่อยไปตั้งศาล ตากแดด ทำงานในที่ร้อนแต่กลับไม่มีเหงื่อออกมาเลยสักเม็ด ส่วนคนอื่นๆ เหงื่อออก เปียก แฉะท่วมตัว ซึ่งเครื่องตัวนี้จะบอกทุกอย่างจริงๆ ว่าเราต้องดูแลร่างกายยังไง และในแต่ละสัปดาห์ต้องเข้ามากี่ครั้ง ที่สำคัญทุกครั้งที่เข้าไปจะได้วัดเครื่องนี้ทั้งก่อนและหลัง เพื่อเห็นความแตกต่างว่ากล้ามเนื้อดีขึ้น ไขมันลง พอทำแล้วรู้สึกเลยว่ามีเหงื่อออกมา เพราะเครื่องที่ทำมีการขยับกล้ามเนื้อ คล้ายกับกำลังซิทอัพ พอทำแล้วคือกล้ามท้อง แขน ขาที่ย้วยๆ เฟิร์มเลย เครื่องวัดจะเป็นตัวเลขประมวลเป็นค่าออกมา ไขมันส่วนเกินสีเหลืองที่อยู่ในร่างกายของเรา ก็จะค่อยๆหดตัวและหายไป คือมันดีจริงๆ จากไขมันที่พุง 66 ลดลงเหลือ 47 และไขมันที่ตับ จากที่เคยต้องกินยา ตอนนี้คือหยุดกินยาเลย เรื่องของการปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อที่ขา ก็หายและที่ชอบสุดๆตอนนี้ คือระบบเผาผลาญของ “หมอปลาย” ตอนนี้น้อยกว่าอายุจริง 2 ปี ใช้เวลาในการเข้าคอร์สแบบเต็มที่ สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ต้องมีวินัยในการทำ เพราะเครื่องที่มีการดีไซน์ออกมาจะลงตามเวลาเลย ส่วนตัวของ “หมอปลาย” ใช้เวลา 5-6 เดือนเอง ก็ออกมาหุ่นดี สวย เฟิร์มได้แบบนี้ คือที่ “Slim Up” บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งทางที่ดีมากๆ เป็นทางเลือกที่ง่ายมากๆ สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องการปวดข้อ มีปัญหาเรื่องฮอร์โมนที่ไม่ดี และย่อยอาหารไม่ได้ “หมอปลาย” ว่ามันเป็นตัวช่วยที่เราไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องเจ็บ และปลอดภัย ส่วนใครที่อยากมีสุขภาพดี มีหุ่นดี รูปร่างสัดส่วนกระชับ สวยแบบ “หมอปลาย” ก็สามารถเข้ามาสอบถามที่ “Slim Up” ได้ทุกสาขา หรือโทรสอบถามข้อมูลได้ที่เบอร์ 02-620-0000 และสามารถติดตามชมรายการมยุราหาเรื่องเมาท์ แขกรับเชิญเป็น “หมอปลาย พรายกระซิบ” ที่มาพร้อมกับโปรโมชั่นสุดพิเศษได้ที่ลิ้งค์นี้เลยค่ะ https://www.youtube.com/watch?v=28155niGOYc
อัปเดตเรื่องความสวยไปแล้ว เรื่องความรักในอดีตที่ “หมอปลาย” เคยเจอรักที่ไม่ดีถึงขั้นจุดธุป 36 ดอก ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่ง “หมอปลาย” ก็เล่าต่อว่าเป็น “หมอดู” แต่เป็น “หมอดู” ที่มีแฟนมีความรักได้ เพราะขอกับ “พระศิวะ” ท่านไว้แล้วว่าถ้าจะให้เป็นหมอดู แต่ขอมี “แฟน” และท่านก็ให้ ต้องใช้คำนี้ท่านก็ให้แฟนมา (ยกมือไหว้) แต่เราก็เจอบทเรียนมาเยอะน่ะกว่าจะมาถึงอายุในตอนนี้ วันนึงท่านก็บอกว่าถ้ามันไม่ไหว รู้สึกเครียดเพราะมันมีผู้ชายหลายกลุ่ม ที่ไม่อยากได้ผู้หญิงเก่ง ผู้หญิงทำงานเยอะ ไม่อยากให้ผู้หญิงออกไปข้างนอกนานๆ และช่วงนั้นไปเรียนต่างประเทศ หนีการดูดวง ไปอยู่ต่างประเทศทีนึง 6-8 เดือน พออยู่ทางไกลทนไม่ไหว เราก็จับได้ว่าเขานอกใจ ซึ่งถ้าถามหนูว่าแคร์มั้ย เราไม่ได้แคร์ เพราะเรารู้ว่าเป็นคนผิด เราออกไปทำงาน เราเน้นชีวิตของเรา ครอบครัว การทำงาน พอเรากลับมาเราไม่แฮปปี้ เลิกไม่ได้คือเขาไม่ยอมเลิก แล้วทำยังไงก็ไม่เลิก ตัดสินใจจุดธูป 36 ดอก ก็บอก “พระศิวะ” และ “ท่านยม” ว่าถ้าอยากให้มีความสุขกว่านี้ อยากให้ขยันทำงานกว่านี้ ขอคนใหม่ได้มั้ย (ยกมือไหว้) หรือขอให้หลุดง่ายๆ ไม่ทะเลาะกันและกลับมาเป็นพี่น้องกัน เรารู้จักกันมานาน ท่านก็บอกว่าสวดมนต์ ยอดพระกันต์ไตรปิฎก 37 จบ วันนั้นคือหนูตั้งใจมาก หนูสวดยอดพระกันต์ไตรปิฎกภายใน 3 วัน และก็สวดคาถา “พระกฤษณะ” ,คาถา “ท่านยม” แล้วก็เขียนหนูเหนื่อยมาก หนอยากได้คนใหม่ ขอให้คนใหม่ไม่วุ่นวายกับชีวิต ขอให้คบแล้วมีความสุข 2-3 วันผ่านไป กรวดน้ำเรียบร้อย เออเราเป็นพี่น้องกันเถอะง่ายๆแค่นั้นเลย และตอนนี้ก็ยังคุยปกติ คุยเป็นพี่น้อง ก็คือเบาด้วยดี ตั้งจิต ตั้งสติ เพราะว่าคนเป็นคู่กัน กว่าหนูจะเข้าใจคำว่า คู่เกื้อกูล ,คู่ที่เป็นเจ้ากรรมนายเวร ,คู่ที่อยู่ด้วยกันแล้วทู่ซี้กันไปทู่ซี้กันมา คือมันอยู่ที่บุญ แล้วถ้าสมมุติว่าเราอยากให้เขารักเรามากขึ้นและเป็นคู่ที่ดีกับเรา เราสวดมนต์ให้เขา เขาก็จะดีกับเรามากขึ้น แต่ถ้าไม่ใช่เขามาและเขาจะทำร้ายจิตใจเรา เราสวดให้เขาไป หนูก็เลยได้บทเรียนตรงนี้ พอได้คนใหม่มาหนูก็ลองสวดมนต์อีก สวดยอดพระกันต์ไตรปิฎก คนใหม่ที่เข้ามาคือแฮปปี้มาก ไม่มาวุ่นวายในเรื่องของการทำงาน ไม่มาวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัว เราก็ทำงานสบายก็เลยตัดสินใจอีกรอบนึง ด้วยความที่ยังไม่เชื่อกฎแห่งกรรม ไม่เชื่อเรื่องเวรกรรม สวดมนต์อีกแล้วก็บอกว่าถ้าเขาเป็นคู่ เขาเป็นคนที่จะมาเป็นเกื้อหนุนกัน ให้เขาดีขึ้นได้รับบุญ แต่ถ้าไม่ใช่ให้ปัดไปเลย ผลออกมาคือเขาดีขึ้น ก็พอมีเรื่องแบบนี้ คือมันแปลกมาก ลูกค้า “หมอปลาย” ใช้สูตรนี้เยอะมาก (หัวเราะ) คือปลายก็บอกไปหลายคน คือแค่สวดยอดพระกันต์ไตรปิฎก 37 จบ, “ท่านยม” สวดคาถา ปะโตเมตัง 19 จบ ทำด้วยความมุ่งมั่น และกรวดน้ำ คือถ้าคนเป็นคู่ทุกอย่างจะดีขึ้น และเขาจะหยุดทำร้ายเรา อันนี้คือความเชื่อ เพราะมันเกิดขึ้นกับตัวของ “หมอปลาย” เองจริงๆ